Sunday, July 8, 2018

อุทธาหรณ์จากเธอผู้ติดเชื้อ HIV ถึงว่าที่เจ้าสาวทุกคน! (อ่านก่อนที่จะสายเกินไป) และ การดูแลสุขภาพอบ่างไร!!!







เรื่องเล่าจากชีวิตจริงของเด็กผู้หญิงอายุ 22 ปีที่สามีปกปิดเรื่องที่ติดเชื้อ HIV จนมาแพร่เชื้อให้เธอด้วย มันจะไม่ดราม่าขนาดนี้ถ้าเธอไม่ได้รู้ตอนที่ท้องลูกได้ 3 เดือนแล้ว!!! กับการตัดสินใจครั้งสำคัญ เมื่อแพทย์ยื่นทางเลือกให้เพียงสอง จะเก็บเด็กไว้หรือจะเอาเด็กออก เธอจะเลือกอะไร!!!


ในดงกุหลาบมักมีหนามแหลม ในรอยยิ้มที่เบิกกว้างมักมีรอยยับจากการพับของชั้นเนื้อบนใบหน้าตามมาเสมอ ท่ามกลางความรักอันเป็นยอดปรารถนาก็ยังมีความทุกข์แฝงมาทุกคราอย่างไม่อาจเลี่ยง

สำหรับบางคน ความทุกข์คือการมีปากเสียงในการเลือกร้านสำหรับมื้อเย็น บางคนอาจเป็นเพียงแค่ขาดความเอาใจใส่ หลายคนอาจเป็นเรื่องของระยะทางที่ห่างไกล หลายคู่อาจบานปลายถึงใครคนอื่นที่เข้ามาเกี่ยวข้องในความสัมพันธ์ที่ควรจะหยุดอยู่แค่สองคนเท่านั้น แต่สำหรับน้องดาว (นามสุมมติ) ความทุกข์ที่มาในรูปแบบของปัญหาไม่ใช่เพียงแค่เรื่องความสัมพันธ์แบบคู่รักทั่วไป แต่เธอต้องกลายเป็นผู้เคราะห์ร้ายที่ได้รับเชื้อ HIV จากสามี และลูกชายก็ยังอยู่ในระหว่างรอฟังผลจากหมอว่าจะติดเชื้อด้วยหรือไม่ ความฝันที่จะมีครอบครัวสุขสันต์เหมือนใครอื่นต้องพังลงตรงหน้า เพียงเพราะเขาคนนั้นที่เธอรักตั้งใจปิดบังความจริง


ดาวเจอกับต้น (นามสมมุติ) ครั้งแรกที่ตลาดแถวบ้าน ทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ต้นเป็นคนที่เข้ามาทำความรู้จักกับเธอ หลังจากนั้นก็ได้พัฒนาความสัมพันธ์จนถึงขั้นไปมาหาสู่กันตามประสาเด็กวัยรุ่นทั่วไป ทั้งคู่จะนัดพบกันที่บ้านของดาวเสียเป็นส่วนใหญ่เพราะดาวมีร่างกายที่อ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก ทำงานหนักไม่ได้ จึงมีหน้าที่เฝ้าบ้านดูแลบ้านเป็นหลัก ด้วยความที่คุณแม่ทำงานข้างนอก และคุณน้าทำงานอยู่กรุงเทพ การคบหากันของทั้งคู่จึงแทบไม่ได้อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่เท่าใดนัก ดาวยอมรับว่าแทบจะเป็นการแอบคบกันก็ว่าได้ หลังจากคบกันได้สักพักดาวได้เกิดอุบัติเหตุรถล้ม ต้นก็มาดูแลที่โรงพยาบาลด้วยความเป็นห่วงเป็นใย และนั่นทำให้ครอบครัวของดาวรู้จักเขาอย่างเป็นทางการและเกิดความรู้สึกดีๆ ต่อแฟนของดาวอีกด้วย
หลังจากคบกันได้ 5 เดือน ทั้งสองก็ตกลงใจที่จะมาอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา ไม่ได้มีการแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวอะไร มีเพียงการผูกข้อไม้ข้อมือพอเป็นพิธีเท่านั้น ด้วยความที่เป็นคนต่างจังหวัดขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของความพร้อมของการมีครอบครัว ทำให้ทั้งคู่ไม่ได้พากันไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพ ตรวจเลือด ตรวจโรค อย่างที่คู่แต่งงานใหม่พึงกระทำ หลังจากอยู่กินกันได้ปีครึ่ง ดาวก็ตั้งท้องลูกคนแรก เธอตื่นเต้นและดีใจกับการท้องครั้งนี้มาก ความฝันที่จะมีครอบครัวกำลังจะเป็นจริงขึ้นมา พร้อมหน้าพร้อมตาด้วยตัวเอง สามี และลูกรัก
เมื่อท้องได้ 3 เดือน เธอก็ได้เดินทางไปฝากครรภ์กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด ซึ่งหนึ่งในขั้นตอนนั้นมีการตรวจเลือดด้วย พอถึงวันที่ต้องไปฟังผลเลือด ตอนแรกเธอรู้สึกว่าไม่อยากไป โดยตั้งใจจะเบี้ยว แต่จู่ๆ ก็เปลี่ยนใจ นึกอย่างไรไม่รู้ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวออกไปโรงพยาบาล โดยมีคุณแม่เดินทางไปเป็นเพื่อน "ตอนเข้าไปพบกับคุณหมอตัวต่อตัว คุณหมอถามหนูว่า ถ้าหนูเป็นโรคร้ายแรงหนูจะรับได้ไหม” คำถามที่คุณหมอเกริ่นทำให้เธอใจหาย ดาวได้แต่ตระหนกระคนแปลกใจ ตอบหมอไปอย่างช้าๆว่า "ก็คงต้องรับให้ได้ ทำได้แต่ทำใจเท่านั้น” คุณหมอจึงบอกว่า "คุณได้รับเชื้อ HIV!!” วินาทีนั้นเหมือนโลกหยุดหมุน เธออึ้ง ตกใจ และไร้ซึ่งคำพูด ดาวบอกกับเราว่า "มันเหมือนโลกทั้งใบถล่มลงมา!!"
ด้วยความที่ไม่เคยคาดคิดว่าชีวิตนี้จะต้องมาติดเชื้อ HIV คำพูดของหมอจึงทำให้เธอช็อคราวกับสติหลุดออกจากร่าง พอรู้สึกตัวอีกทีก็มีน้ำตาไหลอาบสองแก้ม ใจสั่นอย่างไม่อาจควบคุม สับสนไปหมดว่าจะทำยังไงดี เมื่อเธอออกมาจากห้องตรวจพร้อมกับการร้องไห้ไม่หยุดทำให้แม่พลอยตกใจไปด้วย จึงพยายามเค้นถามดาวว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเองก็ไม่อยากบอกแม่ เพราะกลัวแม่คิดมาก กลัวแม่เสียใจ กลัวแม่โกรธ มันหลากหลายอารมณ์ไปหมด พูดไม่ออกบอกไม่ถูก จึงได้แต่เงียบใส่พร้อมให้น้ำตาเป็นคำตอบ แต่เมื่อแม่รุกหนักเข้า จึงต้องยอมบอก แต่สิ่งที่แม่ตอบคือ "ต้องสู้ เรายังมีโอกาสต่อสู้ อย่ายอมแพ้ เกิดแล้วก็ต้องแก้ปัญหากันไป ไม่เป็นไรนะลูก อย่ามายอมแพ้กับเรื่องแค่นี้!!!”
ทันทีที่กลับถึงบ้าน ดาวก็ทะเลาะกับสามีของเธอเรื่องการติดเชื้อ HIV ฝ่ายชายปฏิเสธท่าเดียวว่าไม่ได้เป็น เมื่อเธอขอร้องให้เขาไปรับการตรวจอีกครั้ง เขาก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นจริงๆ ตรวจแล้ว และไม่มีเชื้อ แต่เมื่อคุณแม่ของดาวไปสอบถามจากทางพ่อแม่ของต้น จึงได้ความว่า ต้นติดเชื้อ HIV มา 3 ปี แล้ว ตอนก่อนจะมาอยู่กินกับดาวทางบ้านก็ให้มาแจ้งแล้ว แต่ต้นเลือกที่จะไม่เล่า "เค้าตั้งใจปกปิดหนู เค้าไม่ได้รักหนู ถ้าเค้ารักหนูเค้าต้องบอกหนูทุกอย่างแล้ว แต่นี่เค้าไม่บอก เค้าไม่สนเลยด้วยซ้ำว่าหนูจะติดเชื้อหรือเปล่า” น้ำเสียงที่เจือความเจ็บปวดภายในใจถูกเล่าพร้อมสายตาที่เลื่อนลอยไกลออกไปนอกหน้าต่าง หลังจากนั้นดาวก็บังคับให้ต้นไปตรวจจนได้ เมื่อผลออกมาคุณหมอก็แจ้งกับดาวว่า ต้นเป็นคนเอาเชื้อมาแพร่ให้เธอจริง ความเสียใจกระหน่ำเข้าใส่อีกระลอก ผู้ชายที่เธอรักที่สุด พ่อของลูกในท้อง คือคนที่ทำให้เธอต้องติดเชื้อ HIV นั่นเอง!!
กระนั้น กำลังใจจากคุณแม่ก็ยังถ่ายทอดมายังดาวได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อต้องไปโรงพยาบาลอีกครั้ง คุณหมอมีให้ดาวเลือกสองทาง หนึ่ง คือเก็บเด็กไว้ สอง คือเอาเด็กออก เพราะมีโอกาสที่ลูกในครรภ์จะติดเชื้อ HIV ด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถตรวจว่าเด็กติดเชื้อหรือไม่ จัดเป็นการตัดสินใจบนความเสี่ยงที่เป็นไปได้แบบครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว แม้ร่างกายเธอจะอ่อนแอ แต่จิตใจของดาวนั้นเข้มแข็งจนน่ายกย่อง หากเป็นคนอื่นคงกลัวไปต่างๆนานา ต้องคิดมาก ต้องชั่งใจให้น้ำหนักกับความเป็นไปได้ แต่สิ่งเดียวที่ดาวคิดคือ ดาวไม่ทำ เธอบอกกับเราว่า "ดาวทำไม่ลง สงสารเค้า ดาวจะเก็บเค้าไว้ เค้าคือลูกของดาว เค้าคือชีวิตของดาว" น้ำเสียงเรียบๆ เบาๆ ที่แสดงออกถึงความเหนื่อยล้าจากปัญหาที่ถาโถม ทว่าหนักแน่นด้วยเชื่อในความคิดของตัวเอง ทำเอาเราอึ้งในความเข้มแข็งที่มีอยู่ภายในร่างเล็กๆ ตรงหน้าอย่างเป็นที่สุด

หลังคลอด ลูกของดาวแข็งแรงปกติดี เพราะน้องได้รับยาต้านสองช่วง ช่วงหนึ่งคือตอนที่อยู่ในท้อง และอีกช่วงคือหลังคลอดตลอด 1 เดือน สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือ เธอต้องระวังตัวมากขึ้น ต้องกินยาให้ตรงเวลา ต้องระวังเรื่องเลือดด้วย ที่บ้านก็ยังกอดยังหอมดาวเป็นปกติ เพราะทุกคนรู้ว่า HIV ไม่สามารถติดทางลมหายใจได้ ถ้าจะติดทางน้ำลายก็ต้องกินเป็นลิตร ดาวได้เรียนรู้ว่าการใช้ช้อนกลาง ไม่เพียงแต่เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมเท่านั้น แต่ยังเป็นการป้องกันดูแลตัวเองด้วย เพราะเชื้อ HIV ทำให้ร่างกายของเธอเกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง การติดเชื้อโรคเล็กๆ น้อยๆ เช่นหวัดจากผู้อื่นอาจทำให้ส่งผลต่อการใช้ยาต้านหรือร่างกายทรุดมากขึ้นก็เป็นได้ ความรู้ความเข้าใจเหล่านี้ทำให้เธอไม่รู้สึกว่าการติดเชื้อเป็นเรื่องลำบากอะไรนัก แต่สำหรับเรื่องนี้ทางบ้านตัดสินใจที่จะไม่บอกคนทั่วไปโดยเฉพาะคนในละแวกบ้าน เพราะในสังคมต่างจังหวัดนั้นยังไม่เข้าถึงความรู้ในเรื่องของการติดเชื้อ HIV ที่แท้จริง เกรงว่าจะโดนสายตารังเกียจและปฏิกิริยาที่ไม่ดี และนั่นคงทำให้ใช้ชีวิตยากขึ้นด้วย
ตอนนี้ฝ่ายชายอาการทรุดหนัก นอนป่วยอยู่ในบ้านของดาว ซึ่งนอกจากต้องดูแลตัวเอง ดูแลลูกแล้ว ดาวยังต้องคอยดูแลต้นด้วย เมื่อเราถามว่า ยังรักเขาอยู่ไหม เธอพูดด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ว่า "ก็รักค่ะ ... แต่น้อยลง” เมื่อถามว่า ไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่เคียดแค้นที่เขาเอาเชื้อมาติดเราเหรอ ที่สำคัญยังมาเป็นภาระให้เราดูแลอีก เธอตอบแบบไม่ได้คิดอะไรว่า "ที่บ้านไม่มีใครอยากเห็นหน้าเค้าเลยค่ะ อยากให้ไล่ออกไปจากบ้านเลย แต่หนูสงสารเค้าค่ะ มันไม่ได้เป็นภาระอะไร หนูสงสารลูกด้วย อยากให้ลูกมีพ่อ ถ้าเค้าเสีย หนูก็คงเสียใจ ยังไงเค้าก็พ่อของลูก หนูคิดแค่นี้” ความเดียงสาที่ถ่ายทอดออกมาแบบซื่อๆ นี้ทำให้เราต้องอึ้งอีกครั้ง ดาวไม่ได้บอกว่าตัวเองว่าเป็นนางเอกที่ถูกกระทำ เธอไม่ได้พยายามฉายภาพของแม่พระที่จิตใจสูงส่งแต่อย่างใด ใช่ เธอติดเชื้อ HIV จากสามี และลูกก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเป็นยังไง แต่ก็ใช่อีกนั่นแหละ ที่เธอก็สงสารเขา และลูกของเธอก็คงต้องการพ่อเหมือนเด็กทั่วๆ ไป
"หนูเคยคิดจะฆ่าตัวตายด้วยนะ แต่เป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ เกิดขึ้นตอนที่ทะเลาะกับต้นหลังจากรู้เรื่องติดเชื้อ แต่ก็แค่ชั่ววูบจริงๆ คุณตาบอกว่า ไม่ว่าวันใดวันนึง ก็ต้องมีวันจาก ที่เราทำได้ก็แค่ทำใจ หนูคิดตลอดว่า จะอยู่กับลูกได้นานแค่ไหนนะ กังวล แต่ก็พยายามไม่คิดถึงมัน คิดอย่างเดียวว่า ไม่ได้ หนูจะต้องอยู่กับลูก ดูแลลูก เพื่ออนาคตของลูก"
... ก็แค่สู้ และมีชีวิตอยู่ต่อไป แค่นั้น
ข้อมูลจาก girldaily.com
--------------------------------------------------

สมุนไพรคุณสัมฤทธิ์ สมุนไพรพลูคาว สร้างภูมิต้านทานโรค ภูมิแพ้ (60 แคปซูล)

  • มีฤทธิ์ในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง
  • ช่วยเสริมการรักษาโรคเอดส์ (HIV)
  • ช่วยบรรเทาอาการของโรคฉวยโอกาสต่าง ๆ
  • ช่วยรักษาไข้ โรคหวัดต่างๆ ปอดบวม และโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ
  • ช่วยเสริมการรักษาโรคเบาหวาน
  • รักษาโรคผิวหนัง เช่น งูสวัส โรคเรื้อนกลากเกลื่อน และอาการผื่นแพ้
  • ช่วยรักษาอาการอักเสบของแผล
  • ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันบำรุงสุขภาพ ขับสารพิษ
ราคาพิเศษ 300 บาท จากราคาเต็ม 500 บาท สั่งซื้อ!!!
พลูคาวสมุนไพรคุณสัมฤทธิ์
พลูคาวสมุนไพรคุณสัมฤทธิ์ มีสรรพคุณ บรรเทาอาการน้ำเหลืองเสีย  เพราะระบบน้ำเหลือเป็นระบบที่ช่วยกำจัดเชื้อโรค ช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรค เมื่อระบบน้ำเหลืองแข็งแรง และสะอาดก็จะส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงไม่ป่วยง่ายส่งผลให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น เพราะร่างกายสามารถกำจัดเชื้อโรคต่างๆได้ดียิ่งขึ้น
ทะเบียนเลขที่ G259/55
บรรจุ 60 แคปซูล

มีฤทธิ์ในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง
ช่วยเสริมการรักษา และบำรุงสุขภาพสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคมะเร็งเป็นโรคร้ายเเรงสิ่งที่หลายท่านมีความกังวล เพราะปัจจุบันมีผู้ป่วยมะเร็งจำนวนมาก และรักษาหายยากอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ เเละด้วยส่วนผสมของสมุนไพร พลูคาว ปัญจขันธ์ ทองพันชั่งและขันทองพญาบาท ซึ่งมีสรรพคุณในการต่อต้าน และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งทำให้การเจริญลุกลามของเซลล์มะเร็งลดน้อยลงส่งผลให้ผู้ทานที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งมีสุขภาพที่ดีขึ้น อาการข้างเคียงเจ็บป่วยจากโรงมะเร็งทุเลาลง ผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคมะเร็งหรือสงสัยว่าตนเองจะเป็นมะเร็งก็สามารถทานได้เพื่อช่วยบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ

ช่วยเสริมการรักษาโรคเอดส์ (HIV) และช่วยบรรเทาอาการของโรคฉวยโอกาสต่าง ๆ
โรคเอดส์เป็นโรคที่ทำให้ร่างกายเจ็บป่วยในหลายๆ ส่วนเพราะร่างกายขาดภูมิคุ้มกันทำให้บริเวณผิวหนัง เป็นตุ่ม เป็นแผล หรือมีโรคที่เจ็บป่วยภายในอื่นๆ ตามมาด้วยส่วนผสมของสมุนไพรในตำรับยาแคปซูลพลูคาว ตราสมุนไพรคุณสัมฤทธิ์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงปรับสภาพน้ำเหลือง (ที่เป็นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย) ช่วยต่อต้าน และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสต่างๆ ทำให้ร่างกาย และระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น และนอกจากนี้ยังช่วยรักษาบรรเทาอาการของโรคผิวหนังที่เป็น ตุ่มพอง อักเสบต่างๆ ทั่วร่างกาย ให้แห้งและหายเร็วยิ่งขึ้นทำให้ไม่เป็นแผลนานเริ่มเห็นผลในการทานต่อเนื่องจะสังเกตได้ว่าสุขภาพแข็งแรงขึ้น

ช่วยรักษาไข้ โรคหวัดต่างๆ ปอดบวม และโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ
โรคปอดบวมและไข้หวัดเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยไอจามบ่อย หลายท่านไอจนเจ็บหน้าอกและยังติดต่อไปสู่ผู้อื่นอีกด้วย ส่วนผสมของ สมุนไพรพลูคาว เหงือกปลาหมอ ขันทองพยาบาทที่มีสรรพคุณในการขจัดเชื้อไวรัส และแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุให้เกิดไข้หวัด และอาการปอดบวม เมื่อทานต่อเนื่อง อาการป่วยจากโรคเหล่านี้จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาการไอจามจะลดลง สามารถทานคู่กับยาแผนปัจจุบัน หรือเสริมการรักษาให้กับผู้ที่เป็นโรคดังกล่าวได้อย่างดี

ช่วยเสริมการรักษาโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานเป็นโรคที่พบได้ง่ายในผู้สูงอายุ เมื่อเป็นแล้วจะทำให้แผลหายช้าหากระดับน้ำตาลในเลือดสูง จะส่งผลถึงระบบการมองเห็น เมื่อเป็นต่อเนื่องเรื้อรังโดยไม่ดูแลสุขภาพจะเป็นสาเหตุของโรคอื่นๆ ด้วยส่วนผสมของ พลูคาวปัญจขันธ์ รางจืด และมะรุม ที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้แผลที่หายยาก แห้งและตกสะเก็ดเร็วขึ้น ไม่เป็นแผลเรื้อรัง อาการเบาหวานขึ้นตาก็จะได้รับการบรรเทาลง ทำให้สามารถมองเห็นได้ดีขึ้น การทานสมุนไพรที่บรรเทาอาการของโรคเบาหวานได้ จะช่วยให้ปลอดภัยจากโรคที่จะตามมาจากการรับประทานยาแผนปัจจุบันมากๆ เช่น โรคไต โรคตับ เป็นต้น เพราะสามารถทานควบคู่เพื่อเสริมการรักษาทำให้เราทานสารเคมีน้อยลง

รักษาโรคผิวหนัง เช่น งูสวัส โรคเรื้อนกลากเกลื่อน และอาการผื่นแพ้
โรคงูสวัส สะเก็ดเงิน โรคเรื้อน กลาก เกลื้อน เริม เป็นโรคที่อาจเกิดจาก เชื้อไวรัสหรือ เชื้อแบคทีเรียที่อยู่รอบตัวเรา ซึ่งทุกคนก็มีโอกาสเป็นโรคเหล่านี้และเมื่อเป็นแล้วจะสร้างความรำคาญ เช่น อาการแสบ คัน บริเวณผิวหนังอยู่เสมอๆ
หรือเป็นแผลที่ไม่น่ามองต่อผู้พบเห็น ด้วยส่วนผสมของสมุนไพรหลายชนิดในตำรับยาสมุนไพรพลูคาว ตรา สมุนไพรคุณสัมฤทธิ์นี้ ที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ช่วยชะลอการลุกลามของโรคผิวหนัง และช่วยให้ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังแล้วหายเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงระบบน้ำเหลืองทำให้อาการแพ้ผื่นคันลดลง เช่น อาการแพ้จากยุงหรือมดกัดที่เป็นตุ่มดำๆตามขา หรือแขนในบางท่านทำให้อาการแพ้จากที่เคยรุนแรงดีขึ้น

ช่วยรักษาอาการอักเสบของแผล
เมื่อร่างกายเกิดแผล เช่น แผลถลอก หรือ แผลที่อักเสบอยู่ภายในร่างกายจะส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดหรือเป็นไขในบางรายที่เป็นแผลเรื้อรังนานก็อาจจะมีน้ำหนอง หรือเกิดรอยแผลที่ไม่น่ามอง ด้วยส่วนผสมของสมุนไพรพลูคาวปัญจขันธ์รางจืด และมะรุม ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยลดอาการอักเสบของแผลช่วยให้แผลแห้งและตกสะเก็ดเร็วขึ้น ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียทำให้แผลอาการของบาดแผลทุเลาลงลดอาการเจ็บปวดและความรุนแรงของบาดแผลเพื่อไม่ให้รอยแผลลุกลามจนไม่น่ามองและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันบำรุงสุขภาพ ขับสารพิษ
ในปัจจุบันเราต้องเจอกับเชื้อโรคต่างๆ และสิ่งสกปรกมากมาย การมีภูมิ-ต้านทานโรคที่ดีทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยง่ายไม่สิ้นเปลืองค่ารักษาพยาบาลด้วยส่วนผสมของสมุนไพรหลากหลายชนิดใน ยาแคปซูลพลูคาว ตราสมุนไพร-คุณสัมฤทธิ์ ซึ่งมีสรรพคุณในการบำรุงน้ำเหลืองที่มีหน้าที่ในการต่อสู้กับเชื้อโรคช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่ายกายไม่ให้ป่วยง่าย และด้วยส่วนผสมของมะรุมที่ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะรับประทานเพื่อบำรุงร่างกายหรือ บำรุงสุขภาพสำหรับผู้ป่วยที่กำลังอยู่ในช่วงพักฟื้น
--------------------------------------------------


VDO รู้ไว้! AIDS กับ HIV ไม่เหมือนกัน

กว่า 30 ปี ที่เรารู้จักโรคร้ายที่ชื่อว่า เอดส์ เราอาจเคยได้ยินกันว่า ถ้าเป็นเอดส์ ก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอวันป่วย เป็นโรคมากมาย และ ก็ตายในที่สุด เลยทำให้ผู้ติดเชื้อ หดหู่ ท้อแท้ หมดหวัง และไม่รู้ว่าต้องใช้ชีวิตยังไงต่อไป "AIDS กับ HIV มันไม่เหมือนกัน" AIDS (โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง) เกิดจาก เชื้อไวรัสที่ชื่อ HIV ไปทำลายภูมิคุ้มกันในร่างกายให้มีปริมาณต่ำมาตรฐาน จนทำให้โรคต่างๆ เกิดขึ้นแทรกซ้อน เช่นปอดอักเสบ เยื่อสมองอักเสบ วัณโรค ในที่สุด HIV เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ที่ทำให้เป็น AIDS "ติดเชื้อ HIV ไม่ได้หมายความว่าเป็น AIDS" หลังจากรับเชื้อสุขภาพทุกอย่างปกติ ใช้ชีวิตได้ปกติ ไม่แสดงอาการใดๆ แต่ HIV จะทำลายภูมิคุ้มกันของเราเรื่อยๆ ภายใน 7-10 ปี ถึงจะมีการป่วยเป็น AIDS ถ้ารู้ว่าติดเชื้อ HIV เร็ว เราก็คุมให้เชื้อไม่ทำลายภูมิคุ้มกันได้เร็วเท่านั้น เป็น AIDS หรือไม่ ดูจากปริมาณภูมิคุ้มกันที่ต่ำลง เราจะหาจากปริมาณเม็ดเลือดขาว "เรียกว่า CD4" ถ้าต่ำกว่า 200 อาจเป็นเอดส์ มากกว่า 200 ยังไม่เป็นเอดส์ แต่มีเชื้อ HIV คนทั่วไปจะมี มากกว่า 400 "ถ้าเรามีภูมิคุ้มกันที่ดี" โอกาสเป็น AIDS ก็น้อยลง หรืออาจไม่มีเลยก็ได้ เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว หากได้รับเชื้อ HIV ต้องดูแลสุขภาพให้ดี เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ก็อยู่บนโลกนี้ได้อีกนาน แต่กลับกันถ้าได้รับเชื้อ HIV แต่ไม่ดูแลสุขภาพให้มีภูมิคุ้มกันที่ดี ก็อาจป่วยเป็น AIDS และ เสียชีวิตในที่สุด ดังนั้น AIDS ควบคุมได้ ถ้ามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง สมดุล และสมบูรณ์ HIV ก็จะทำลายร่างกายของเราไม่ได้ และอยู่บนโลกใบนี้ได้อีกนาน ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และสุขภาพดีแน่นอน Life Tips AIDS ป้องกันได้ HIV ควบคุมได้ +++++++++++++++++++++++++++ RE-LIVE Thailand Live Healthier, Live Longer www.relivethailand.com

รู้หรือไม่! HIV ไม่ใช่โรคเอดส์เสมอไป

สภาพการโรคเอดส์ในบ้านเรายังถือว่าอยู่ในระยะเฝ้าระวัง เนื่องด้วยจำนวนผู้ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์มีอัตราการเป็นเอดส์เพิ่มสูงขึ้น ฉะนั้นโอกาสที่เด็กซึ่งคลอดจากมารดาที่เป็นเอดส์อาจจะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว บางประเทศในแถบตะวันตกที่มีอัตราการเป็นเอดส์สูง เนื่องจากโรคนี้พบได้บ่อยกว่าในบ้านเรา และในประเทศสหรัฐอเมริกาเองนั้นโรคเอดส์เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตลำดับที่ 9 ของเด็กอายุ 1-4 ปี
โดยความเป็นจริงแล้วคนที่เป็นโรคเอดส์จะมีเชื้อไวรัส HIV อยู่ในตัว แต่ทั้งนี้คนที่มีเชื้อ HIV นั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นโรคเอดส์เสมอไป คือติดเชื้อ HIV แต่ยังไม่มีอาการ สามารถดำเนินชีวิตได้เหมือนคนปกติ แข็งแรงเหมือนคนปกติ แต่ทั้งนี้หากผู้มีเชื้อไม่ได้รับการรักษาหรือภูมิคุ้มกันต่ำลงเรื่อยๆ จนร่างกายอ่อนแอจนทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคขึ้นถึงจะเรียกว่าเป็น เอดส์ โดยเชื้อ HIV นั้นติดต่อได้ 3 ช่องทางใหญ่ๆ คือ ทางเพศสัมพันธ์ เลือด และ จากแม่สู่ลูก
ส่วนกรณีที่ติดจากแม่สู่ลูกนั้นส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นตอนช่วงแรกเกิดแต่จะยังไม่มีอาการ ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษาก็อาจจะเป็นได้ในอนาคต ตอนช่วงอายุประมาณ 1 ขวบไปแล้ว โดยสาเหตุอาจเกิดจากการกลืนเลือดแม่ตอนคลอด หรือการกินนมแม่ ทั้งนี้หากติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์ซึ่งมีโอกาสน้อยมาก เด็กที่คลอดออกมาจะมีลักษณะตัวเล็ก อาจมีพัฒนาการน้อยกว่าปกติ แต่ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับทุกคน

ทั้งนี้ในปัจจุบันประเทศไทยมีการรณรงค์ในเรื่องของการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก คือ หากคุณแม่ท่านใดไปฝากครรภ์แล้วคุณหมอตรวจพบการติดเชื้อก็จะมีแนวทางการป้องกัน ซึ่งตอนนี้มีน้อยมากกว่า 2% ตรงตามเป้าของ WHO หรือองค์การอนามัยโลก ซึ่งหมายความว่า คู่สามีภรรยาที่มีเชื้อ HIV สามารถมีลูกได้ รวมถึงกรณีที่คุณพ่อมีเชื้อเช่นเดียวกัน โดยจะใช้วิธีการนำน้ำเชื้อของพ่อไปแยกออกจากเชื้อ HIV แล้วฉีดเข้าไปในตัวของแม่ โดยเด็กส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อมักจะเกิดจากแม่ที่ไม่รู้ตัวว่าตนเองมีเชื้อ หรือไม่ได้ไปฝากครรภ์จึงไม่ได้รับการตรวจจับเชื้อ โดยเด็กจะมีอาการ เช่น เลี้ยงไม่โต ติดเชื้อฉวยโอกาส เช่น ถ่ายเหลวเรื้อรัง ปอดบวมที่รักษายาก ติดเชื้อในเยื่อหุ้มสมอง ซึ่งเด็กที่ติดเชื้อแล้วจำเป็นต้องกินยารักษาไปตลอดชีวิต ขณะที่ลูกซึ่งมีแม่ติดเชื้อ HIV แพทย์แนะนำไม่ให้กินนมแม่ และจะมียาป้องกันเป็นยาสูตรคล้ายกับของคุณแม่ แต่จะมีจำนวนน้อยกว่าโดยจะกินประมาณ 1 เดือน ก่อนจะนัดเข้ามาตรวจว่าตัวเด็กติดเชื้อหรือไม่

อ.ดร.นพ. นพพร อภิวัฒนากุล สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ชุดตรวจการตั้งครรภ์ Pregnancy Test แบบจุ่ม10 ชุด (Blue)



  • อ่านผลง่ายแม่นยำกว่า 99%
  • ใช้ทดสอบได้ตั้งแต่วันแรกที่ประจำเดือนขาดหายไป
  • ตรวจพบได้แม้มีปริมาณฮอร์โมนเพียง 20 mlu/ml
  • EXP 2019-11
ราคาพิเศษ 350 บาท จากราคาเต็ม 800 บาท สั่งซื้อ!!!



รับประกันสินค้าอายุเกิน 1 ปี ณ วันที่ส่งมอบให้คุณลูกค้า
ชุดตรวจการตั้งครรภ์แบบจุ่ม10 ชุด (Blue)

คุณสมบัติ
ชุดตรวจการตั้งครรภ์แบบจุ่ม10 ชุด
อ่านผลง่ายแม่นยำกว่า99%
ใช้ทดสอบได้ตั้งแต่วันแรกที่ประจำเดือนขาดหายไป
เป็นชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่มีความไวสูงในการตรวจหาระดับฮอร์โมน HCG ตรวจวัดได้แม้ร่างกายสร้างเพียง 20 mIU/ml.

รายละเอียด ที่ตรวจแบบจุ่ม เป็นชุดทดสอบการตั้งครรภ์โดยใช้เทคนิกการตรวจวัดหาระดับฮอร์โมน HCG ที่ร่างกายสร้างขึ้นเมื่อเข้าสู่ภาวะตั้งครรภ์ ผลการตรวจจะแสดงให้ทราบว่ามีหรือไม่มีฮอร์โมน HCGในร่างกาย แต่ไม่ได้บอกปริมาณ HCGในร่างกาย ซึ่งหากตรวจพบว่ามีฮอร์โมน HCG นั่นแสดงว่าคุณอาจเริ่มตั้งครรภ์

การใช้ที่ตรวจครรภ์ให้ได้ผลแม่นยำ :

การตรวจตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะเพียงครั้งเดียวอาจยังไม่เพียงพอต่อการยืนยันผลเบื้องต้น เนื่องจากระดับฮอร์โมน hCG ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มีระดับที่แตกต่างกันอยู่ในช่วงกว้าง ดังนั้นการตรวจตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 หรือ 3 จะเชื่อถือผลได้แน่นอนกว่า เช่นในกรณีดังนี้ในช่วง 3 วัน ก่อนวันที่คาดว่าประจำเดือนจะมา ผู้หญิงแต่ละคนอาจมีระดับฮอร์โมน hCG แตกต่างกัน ไล่ตั้งแต่ ระดับต่ำมาก, ระดับกลาง หรือ ระดับสูงมาก ซึ่งหากระดับฮอร์โมน hCG ที่ร่างกายสร้างขึ้นยังคงต่ำกว่าระดับความไวของชุดทดสอบการตั้งครรภ์ (ต่ำกว่า 20 mIU/ml.) ก็จะทำให้ตรวจไม่พบว่ามีการตั้งครรภ์
ดังนั้นจึงควรทำการตรวจตั้งครรภ์ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 โดยให้ทำการทดสอบห่างจากการทดสอบในครั้งแรก 48 ชั่วโมง ด้วยน้ำปัสสาวะครั้งแรกในตอนเช้า ระดับฮอร์โมน hCG ที่ต่ำมาก (ต่ำกว่า 50mlU/ml.) จะพบในช่วงสั้นๆ หลังการฝังตัวของไข่ที่ผสมกับอสุจิแล้วในผนังมดลูกเมื่อเกิดการตั้งครรภ์ และ อีกในกรณีหนึ่งที่พบว่าภาวะที่มีระดับฮอร์โมน hCG ต่ำมาก ก็คือในกรณีสิ้นสุดการตั้งครรภ์ หรือ แท้งบุตรด้วยเหตุตามธรรมชาติในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ดังนั้นผลการทดสอบว่าตั้งครรภ์ แบบไม่ชัดเจน ควรทำการตรวจสอบการตั้งครรภ์ซ้ำอีกครั้งใน 48 ชั่วโมงต่อมา

วิธีใช้ที่ตรวจการตั้งครรภ์แบบจุ่ม
1 ฉีกซองนำชุดทดสอบออกจากซอง
โดยทำการทดสอบทันทีหลังฉีกซอง
2 จับแผ่นทดสอบในแนวตั้งโดยให้หัวลูกศรชี้ลง จุ่มลงในปัสสาวะซึ่งอยู่ในถ้วยที่เตรียมไว้โดยให้ระดับน้ำปัสสาวะไม่เกินขีดที่ลูกศรชี้ 3.จุ่มแผ่นทดสอบในปัสสาวะประมาณ 30 วินาทีแล้วนำขึ้นมาวางบนพื้นราบเพื่อรออ่านผล ควรอ่านผลภายใน 10 นาทีหลังทำการทดสอบ
ตั้งครรภ์ : ปรากฎแถบสีขึ้น 2 ขีด
ไม่ตั้งครรภ์ : ปรากฏแถบสีขึ้น 1 ขีด
ผลการทำสอบผิดพลาด : ไม่มีขีดขึ้น

No comments:

Post a Comment